เอกภพ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กำเนิดเอกภพ



เอกภพ
        เอกภพ (Universe) หรือที่เรียกในภาษาทั่วไปว่า จักรวาล หมายถึงทั้งหมดทุกสรรพสิ่ง นักดาราศาสตร์พยายามศึกษาว่า เอกภพกว้างใหญ่เพียงใด มีกาแล็กซีอยู่จำนวนเท่าใด ปัจจุบันเราทราบว่า กาแล็กซีไม่ได้กระจายตัวกันในเอกภพ หากแต่อยู่รวมกลุ่มเป็นกระจุก กระจุกกาแล็กซีทั้งหลายกำลังเคลื่อนที่ออกจากโลกในทุกทิศทาง แสดงว่า เอกภพกำลังขายตัว  นักดาราศาสตร์ศึกษาอัตราการขยายตัวของเอกภพโดยใช้กฏของฮับเบิล แล้วคำนวณย้อนกลับพบว่า เอกภพมีอายุประมาณ 13,000 ล้านปี ซึ่งอธิบายโดยใช้ทฤษฎีบิกแบง

    - ทฤษฎีบิกแบง
        คำว่า "เอกภพ" หรือ "จักรวาล" เป็นคำเดียวกันตรงกับคำว่า "Universe" ซึ่งหมายถึง ทั้งหมดของสรรพสิ่งทั้งสิ้นทั้งปวง  เอกภพเป็นคำที่ใช้ในภาษาวิชาการ ส่วนคำว่าจักรวาลเป็นที่นิยมใช้แพร่หลายทั่วไป  นักดาราศาสตร์ทำการสำรวจการเลื่อนแดงของกระจุกกาแล็กซีและพบว่า กระจุกกาแล็กซีทั้งหลายกำลังเคลื่อนที่ออกห่างจากโลกมากขึ้นในทุกทิศทาง จึงตั้งสมมติฐานว่า เอกภพกำลังขยายตัว โดยเปรียบเทียบว่า ถ้าลูกโป่งคือเอกภพ และจุดบนผิวลูกโป่งคือกระจุกกาแล็กซี เมื่อเราเป่าลูกโป่ง จุดแต่ละจุดบนผิวลูกโป่งจะมีระยะทางห่างจากกันมากขึ้น
 ดาราจักร

          ครั้งหนึ่งเราเคยเข้าใจว่าดาราจักรเป็นองค์ประกอบที่ใหญ่ที่สุดของเอกภพ  แต่ปัจจุบันได้ค้นพบว่าหลายดาราจักรได้มาอยู่ใกล้กันด้วยแรงโน้มถ่วงเป็นระบบที่ใหญ่ขึ้นซึ่งเรียกว่ากระจุกดาราจักร  (Cluster of Galaxy)  และกระจุกดาราจักรได้มาอยู่ด้วยกันเป็นโครงสร้างกระจุกดาราจักรยักษ์ที่ใหญ่โตกว่ากระจุก

    -ดาราจักร
          ดาราจักรประกอบด้วยดาวฤกษ์  ดาวเคราะห์  เนบิวลา  ฝุ่น  กาซ  รังสีคอสมิค  คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและที่ว่างในอวกาศ  เราจำแนกดาราจักรตามรูปร่างออกเป็น 3 ประเภทใหญ่คือ
1)  ดาราจักรทรงรี  (E,Elliptical  Galaxy)  มีความรีเรียงตามลำดับนับแต่เป็นทรงกลม  E0 ไปจนถึงที่มีความรีมากที่สุดคือ  E7
2)  ดาราจักรทรงกังหัน (S, Spiral  Galaxy) แบ่งออก 2 ชนิดใหญ่คือ ดาราจักรรูปกังหันปกติ (Normal Spiral Galaxy) และดาราจักรรูปกังหันคาน (Barred Spiral Galaxy) ทั้ง 2 ประเภทมีแขนวนรอบ  บริเวณนิวเคลียสสว่างกว่าบริเวณแขนทั้ง 2 ชนิดยังแบ่งย่อยออกเป็น 3 แบบคือแบบ  a,b,c  โดยยึดหลักดังนี้  ความหนาแน่นการขดของแขนกังหัน  ระยะห่างของแขนจากนิวเคลียสและขนาดของนิวเคลียส
          ก ) ดาราจักรรูปกังหันปกติมีใจกลางคล้ายเลนส์นูนทั้ง 2 ข้าง  ที่ขอบตรงกันข้ามมีแขน 2 แขนยื่นออกมาหมุนวนทันทีรอบนิวเคลียสไปทางเดียวกันและอยู่ในระนาบเดียวกัน  แบ่งออกเป็น  Sa, Sb และ Sc  Sa  มีบริเวณใจกลางขนาดใหญ่ แบนบาง  แขนม้วนงอชิดกันGendler M31 Andromeda Galaxy Photo  Sb  มีบริเวณใจกลางขนาดเล็กลง  แขน 2 ข้างใหญ่ขึ้นและเบนออกกว้างเช่นดาราจักรแอนโดรมิดาและดาราจักรของเรา     Sc มีบริเวณใจกลางเป็นแกนเล็ก  แขน 2 ข้างเบนออกจากตัวมากขึ้น
          ข )  ดาราจักรรูปกังหันคาน  มีจำนวนน้อยกว่าชนิดกังหันปกติ  2/3 ของทรงกังหันเป็นกังหันปกติ  นอกนั้นเป็นกังหันคานที่มีแขนตรงออกจากนิวเคลียสคล้ายไม้คานก่อน  จากปลายทั้ง  2  ข้างมีแขนขดโค้งขยายออกมาวนไปทางเดียวกัน  จำแนกพวกย่อยเป็น  SBa,  SBb  และ  SBc    พวก  SBa   มีแขนทั้งสองข้างต่อกันเป็นรูปทรงรีคล้ายอักษรกรีก  มีใจกลางใหญ่  วงแขนชิดใจกลางพวก  SBb  มีใจกลางเล็กลง  วงแขนวนห่างจากใจกลางมากขึ้น  พวก  SBc  มีใจกลางเล็กยิ่งขึ้น  แขนห่างจากใจกลางมากกว่าทั้งสองพวกแรก
3)  ดาราจักรอสัณฐาน (Irr, Irregular  galaxies) เป็นดาราจักรที่มีรูปร่างไม่แน่นอน มีจำนวนไม่มาก สังเกตลำบากว่าเป็นดาราจักรหรือเป็นก้อนกาซ ตัวอย่างเช่นดาราจักรเมฆแมกเจลแลนใหญ่และดาราจักรแมฆแมกเจลแลนเล็กซึ่งอยู่ทางซีกฟ้าใต้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น